รายงานพิเศษ

ถ้าเปรียบประเทศไทยเหมือนผู้ป่วยที่ต้องรับการผ่าตัดครั้งใหญ่  อาการเชื้อมะเร็งคอรัปชั่นที่ลุกลามในสังคมอย่างรวดเร็วนี้ เทียบเคียงกันแล้วในทัศนะของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านการปฏิรูปสังคมปฏิรูป

ประเทศ อย่าง นพ.พลเดช    ปิ่นประทีปเลขาธิการสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา (LDI) อดีตรมช.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และในฐานะอดีตประธานคณะทำงานเฉพาะประเด็นสมัชชาปฏิรูปเพื่อแก้ปัญหาคอรัปชั่น  ประเมินอาการแล้วบอกได้เพียงว่า  อาการป่วยคอรัปชั่นบ้านเรารุนแรงมาก ถ้าเปรียบเป็นมะเร็งก็ขั้นที่ 3-4   ”

ก่อนหน้านี้ มีความเห็นจากนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงอายุความคดีทุจริต โดยแสดงความเห็นว่าจะยังต้องมีอยู่ แต่อาจจะยืดระยะเวลาออกไป ในส่วนของความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จะมีอายุความ 15 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ไม่มากนัก ส่วนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 จะมีอายุความ 20 ปี โดยขณะนี้จะขอเสนอให้ขยายอายุความไปถึง 30 ปี

แพทย์หัวก้าวหน้าผู้นี้บอกว่า ข้อเสนอการขยายอายุความของป... ยังไม่ใช่การปฏิรูป ต้องระวังจะถูกมองว่าเป็นการทำเพื่อตัวเอง ให้ไม่ถูกข้อครหาว่าปล่อยให้คดีหมดอายุความโดยการขยายเวลาคดีไปอีก 30 ปี การขยายอายุความคนผิดก็อาจแก่ตายไปแล้ว แนวคิดนี้ถ้าคนตามไม่ทันก็ดูเหมือนจะดี

ผมให้คะแนนการปราบปรามคอรัปชั่นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในปัจจุบันว่าไม่ถึงเป้า โดยเฉพาะป...นี่ต่ำกว่าเกณฑ์ ในทัศนะผมผลงานของ ป... ถ้า 100 ให้ 40 โดยไม่ใช่ดูแค่แนวคิดอย่างเดียว ดูจากผลงานเชิงประจักษ์ด้วย  อย่างกรณีป... (ป...จังหวัด) อันนี้เป็นภาระเลยแทนที่จะเป็นพลัง  ผิดทาง ไม่ประสบความสำเร็จ แล้วจะเป็นปัญหาด้วย กรณีจำนำข้าวการทำงานของป...เมื่อมีคนอื่นเรียกร้อง แล้วก็ยังทำล่าช้าอีก เรื่องนี้เข้าไปตั้งแต่ปี 2555  คุณใช้เวลาอะไรอยู่ถึง 2 ปี  คุณกล้าณรงค์ (จันทิก อดีตเลขาป.ปช.)เคยบอกก่อนจะเกษียณ 70 ปี ว่าตั้งใจจะทำเรื่องข้าวให้เสร็จก่อนเกษียณ แต่นี่เกษียณไปนานแล้วก็ยังไม่จบนพ.พลเดช ระบุตรงไปตรงมา  พร้อมทั้งบอกด้วยว่า จากการทำงานด้านการศึกษาระบบตรวจสอบคอรัปชั่นมานาน มั่นใจว่า ป...กำลังเดินผิดทางในการสู้กับคอรัปชั่นและเป็นเหตุผลที่ต้องมีการปฏิรูประบบตรวจสอบคอรัปชั่นอย่างจริงจัง ซึ่งจะมองข้ามการปฏิรูปตัวหน่วยงาน ป...ไม่ได้เลย

ที่น่าสนใจปัจจุบัน พบว่า สถิติที่เข้ามาสู่ระบบป...ปัจจุบันมีเพิ่มเป็นกว่า 9,000 คดีอีกแล้ว  กล่าวคือ จากปี 2546-2550 ...เคยแถลงว่ามีเหลือคดีค้างเพิ่มขึ้นจาก 4,975 คดีเป็น 11,578 คดี ซึ่งคิดเป็นอัตราพอกหางหมูประมาณ 1,650 คดี/ปี

ต่อมาในปี 2551 มีการมอบหมายคดีตามภารกิจให้แก่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)ไปจำนวน 5,900 คดี คงเหลือกับป... เพียง 5,650 คดี  แต่จนถึงล่าสุดคณะกรรมการป.ป.ช.โดยนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานป.ป.ช. ร่วมกับนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. ระบุว่า ผลงานด้านปราบปรามทุจริตในปีงบประมาณ 2557 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2556 มีจำนวนที่รับใหม่ 866 คดี รวมกับคดีเดิมที่ค้างอยู่ 8,581 คดี รวม9,447 คดี นับว่าคดีพอกหางหมูกลับมาเพิ่มอย่างรวดเร็วในห้วงเวลาที่ผ่านมา

       ปัจจุบันข้อเสนอจากความพยายามของหลายฝ่ายในงานด้านการปฏิรูปแก้ปัญหาคอรัปชั่นในประเทศไทยมีอยู่เป็นจำนวนมาก หากแต่ การสังเคราะห์ข้อเสนออย่างเป็นระบบกระบวนการ และจัดเรียงความสำคัญ ว่าอะไรควรทำก่อนหลังเป็นเรื่องจำเป็นยิ่งกว่า

ความพยายามของโครงการเวทีภาคีพัฒนาประเทศไทย (Thailand Development Forum : TD Forum) ที่ทำเวทีมาต่อเนื่องรวม 13 ครั้งที่ผ่านมา อันประกอบไปด้วยหน่วยงานสนับสนุนอย่าง สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา (LDI) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

ถึงวันนี้ข้อมูลได้มีการตกผลึกมากพอ จากองค์กร ภาคีแนวร่วมและสถาบันวิชาการที่หลากหลาย  รวมทั้งงานวิจัยเรื่องทุจริตชิ้นต่างๆ จนออกมาเป็น “ 3 ข้อเสนอใหญ่ ในแนวทางการปฏิรูปแก้ปัญหาคอรัปชั่นที่สามารถทำให้เป็นไปได้จริง  ส่งมอบให้ผู้เป็นเจ้าภาพรับไปในการขจัดต่อต้านคอรัปชั่น ให้สภาปฏิรูป และครม.เฉพาะกาล ชุดที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่นานจากนี้ เร่งทำและนำไปต่อยอดได้ทันที  

                มาตรการแรกทำได้เลย  หากร่างกฎหมายผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้วก็จะมีเครื่องมือทำได้อย่างมีพลังมากขึ้น  คือการเสริมสร้างและใช้พลังทางสังคมเพื่อต่อต้านคอรัปชั่น  หมอพลเดชบอกว่า ข้อนี้ส่วนที่มีความเป็นรูปธรรมมากที่สุด คือการดำเนินการผลักดัน (ร่าง) พ...กองทุนสนับสนุนการป้องกันทุจริต   ให้เป็นเครื่องมือของสังคมในการสนับสนุนภาคประชาชนต่อต้านทุจริต  รูปแบบคล้ายกองทุนสสส. แต่ทำหน้าที่เรื่องเดียว คือเรื่อง สร้างธรรมาภิบาล ต้านทุจริต

มีที่มาของเงินกองทุนต้านทุจริตจากส่วนแบ่งทรัพย์สินที่ถูกยึดในคดีทุจริตที่คดีสิ้นสุดแล้ว โดยแบ่ง 25 % เข้ากองทุนนี้  มีฐานความผิดคดีทุจริตจาก 4 ...ที่เกี่ยวข้องได้แก่ 1) ... ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต  (ป...)  2) พ...ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)   3) พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ คือการค้าทางเพศ การค้าขายแรงงานทาส และ 4) พ...ยาเสพติด

 หมอพลเดช อธิบายให้เห็นถึงฐานที่มาของเงินมาจากกองทุน นอกจากนี้ร่างพ...ฉบับดังกล่าวยังกำหนดให้มีเงินจากรัฐบาลสบทบให้ปีละอย่างน้อย 100 ล้านบาทเพื่อแสดงเจตนารมณ์มุ่งมั่นและการมีส่วนร่วมของฝ่ายบริหาร  โดยในทางปฏิบัติมีคืบหน้าในเรื่องนี้ไปมาก ขณะนี้หน่วยงานหลายฝ่ายสำคัญช่วยสนับสนุน เพราะการจะสู้กับคอรัปชั่น กลไกทางสังคมหากเข้ามาร่วมจะมีพลังมหาศาล

นอกจากนี้ยังมีมาตราการทางรูปธรรมอีกข้อคือ เสนอว่าให้มีการตั้งกรรมการร่วมรัฐเอกชนประชาสังคมขึ้นมา นึกถึงทางธุรกิจเขามีกลไกร่วมที่เรียกว่า คณะกรรมการร่วมรัฐเอกชน(กรอ.) ตั้งขึ้นมาสมัยพล..เปรม ติณสูลนนท์  ประกอบไปรัฐบาล ธนาคาร หอการค้า ภาคอุตสาหกรรม มีการประชุมเป็นประจำ ทำให้การขับเคลื่อนทางภาคธุรกิจและระบบเศรษฐกิจไปได้ดี ซึ่งจากการหารือทุกฝ่าย ภาคประชาชนก็อยากเห็นรูปแบบนี้ในการต่อต้านคอรัปชั่น แต่อยากให้เติมภาคประชาสังคมเข้าไปด้วย

 “การปฏิรูปเรามักจะพูดในเรื่องโครงสร้างอำนาจ กฎหมาย กติกาที่เกี่ยวข้อง แต่เรื่องที่เราไม่ได้พูดและละไว้ในฐานที่เข้าใจคือเรื่องคน  แต่สุดท้ายถึงระบบจะดีอย่างไรก็ตามถ้าคนไม่ดีก็พัง  อันนี้จึงเป็นโจทย์ใหญ่  แม้ระบบแย่อย่างไรก็ตาม ถ้าได้คนดีก็ยังพอไปไหว  ปัญหาเรื่องคนของประเทศไทยยังมีลักษณะไม่เอื้อต่อการแก้ปัญหาคอรัปชั่นมากนัก ผมมองดูแล้วยังมีอุปสรรคอยู่เยอะ ยังคงต้องเหนื่อย ผมถึงให้ความสำคัญกับข้อแรกก่อน คือเรื่องพลังทางสังคม ต้องทำให้คนไทยมีจิตสำนึกและวิธีคิดใหม่ รังเกียจคอร์รัปชัน เข้มแข็ง คนฉลาด รู้เท่าทัน การเปลี่ยนจิตสำนึกนี่เป็นงานใหญ่ ต้องเอากองทุนเข้ามาช่วย  แล้วไม่ใช่ว่ามีกองทุนแล้วจะเกิดสังคมเข้มแข็งทันทีนะ อาจต้องใช้เวลาเป็น10 ปีกว่าจะสร้างให้เกิดขึ้นมาได้หมอพลเดชย้ำถึงงานใหญ่ข้อแรก

และมาตรการข้อที่ 2  คือ มาตรการทางภาษีอากร  เสนอให้ใช้มาตรการตรวจสอบและเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง กำหนดให้มาตรฐานนักการเมืองต้องเป็นผู้มีอาชีพสุจริตและเสียภาษีเงินได้ ต้องแสดงด้วย  นั่นหมายความว่าคนที่จะเป็นนักการเมือง จะเป็นรัฐมนตรี จะต้องมีประวัติบันทึกการเสียภาษีเงินได้ประจำปี ภงด. เอามาดูว่าเสียเท่าไร แล้วย้อนหลังไป 10 ปีว่าเสียภาษีไปเท่าไร ที่สำคัญแนวทางนี้สามารถเอาไปวิเคราะห์เปรียบเทียบกับข้อมูลการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของป...  เช่นเทียบกันว่ามีทรัพย์สินจริงประมาณพันล้าน แต่ว่าทำไมเสียภาษีประจำปีเท่ากับคนมีรายได้แค่ 2-3 ล้านเท่านั้น เพื่อพิจารณาดูว่าแล้วมันสมเหตุสมผลกับสถานภาพตอนนี้หรือไม่

                นพ.พลเดช ขยายความว่า ปัจจุบันระบบการแสดงบัญชีทรัพย์สินขณะนี้ค่อนข้างมีจุดโหว่  การแสดงบัญชีทรัพย์สินที่ทำอยู่ขณะนี้ในระบบของป...ก็แสดงไป แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ในการจับผิดคนโกงมากนัก  แล้วใครที่ไม่รู้จริงก็ยังไปเรียกร้อง บังคับให้ต้องแสดงบัญชีกันมากขึ้นไปอีก ไม่รู้ว่าเท่าที่เป็นอยู่ก็ใช้ประโยชน์น้อยและเป็นภาระงานที่มากเกินกำลัง  จากเดิมให้แสดงบัญชีระดับ 10 เป็นต้นไปต้องแจ้ง ต่อมาก็ขยายมาระดับ 9 ก็ต้องแจ้ง บางคนเรียกร้องให้แจ้งทุกระดับเลย  พอออกกฎหมายแบบนี้ดูเหมือนดีแต่ว่าไม่ดี  บัญชีที่จะต้องตรวจมันจำนวนมหาศาล  ที่ผ่านมามี 70,000 กว่าบัญชีที่พนักงานจะต้องตรวจ  แล้วถามว่าจะมีปัญญาตรวจไหม ก็เลยเป็นการตรวจลวกๆ ว่ามีรายการครบไหม มีครบก็จบ แล้วเนื้อในเป็นอย่างไรไม่รู้   ไม่วิเคราะห์เชิงคุณภาพ น่าสงสัยไม่มี  เพราะฉะนั้น ปัจจุบันจึงกลายเป็นการเพิ่มภาระงานให้บุคลากรโดยไม่มีผลอะไรดีขึ้นเลย ล่าสุดกรณีการเสนอให้ข้าราชการระดับ 8 ระดับ 9 และผู้นำท้องถิ่นรายงานเพิ่มอีก ธนาคารก็โวยวายว่าเป็นภาระและในทางใช้ประโยชน์ตรวจสอบก็ไม่มี

สมมติว่าหมอจะจ่ายยาให้คนไข้เป็นกระป๋องๆหว่านเข้าไป แล้วมันไม่สามารถทำให้คนไข้หายป่วยได้ แล้วจะสั่งให้กินไปทำไม เปลืองเงินคนไข้ด้วย   เรื่องบัญชีทรัพย์สินนี่ก็เหมือกัน ที่แสดงนั่นมั่นใจหรือว่าเป็นบัญชีที่ไม่ถูกซ่อนถูกตกแต่งไว้แล้ว  จะตรวจสอบอย่างไรก็ไม่มีปัญญาจะทำอะไรเค้าได้เลย ไม่มีทางรู้ คนที่จะเลี่ยงได้เค้าจะเลี่ยงเลย เพราะคุณไปหลงทาง สิ่งที่ไม่ควรทำกลับทำ ล่าสุดป...ออกมาตรการว่าการทำธุรกรรมที่เกินกว่า 5 แสนบาทให้แจ้ง แต่ก่อน 2 ล้านบาท ธนาคารจะต้องถามว่าเอาเงินไปใช้อะไร เป็นการเพิ่มภาระอีกแบบ  ถามว่าป้องกันทุจริตได้ไหม  ไม่ได้หรอก  เพราะถ้าเป็นแบบนี้เขาก็เอาเงินสดไว้ที่บ้านดีกว่า ไม่ต้องให้ธนาคารมาตรวจสอบ  มาตรการที่มันผิดทาง  สักแต่ว่าได้ทำแล้ว ได้บอกประชาชนว่าฉันได้พยายามออกหมัดแล้ว  เป็นนักมวยที่ขยันออกหมัดแต่ชกไม่ถูก หมอพลเดชระบุ

มาตรการข้อที่ 3 คือปฏิรูประบบงานปราบปรามการทุจริต

กระบวนการสรรหาป...ทั้ง 9 คนปัจจุบันให้อำนาจของประมุข 5 คน 1) ประธานศาลฏีกา 2 )ประธานศาลรัฐธรรมนูญ 3)ประธานศาลปกครอง4) ประธานรัฐสภา5)หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน  ให้ 5 คนนี้เป็นคนตัดสิน ความเห็นของหมอผู้สู้คอรัปชั่น เห็นว่า ทั้ง 5 คนนี้ แม้ภาพจะเป็นที่เคารพในทางสังคม แต่ในการตัดสินมักจะมีวิสัยทัศน์ที่จำกัด โดยจะแคบอยู่กับวงการราชการ สรรหาทีไรก็มักต้องเอาข้าราชการไว้ก่อน จะไม่หลุดไปทางอื่น ด้วยกระบวนการสรรหาเช่นนี้ ก็จะไม่มีทางที่จะบุคลากรจากภาคประชาชน ภาคอิสระต่างๆเข้ามาได้   ซึ่งนี่คือข้อจำกัดประการหนึ่ง

 ทางแก้คือต้องเปลี่ยนสัดส่วนของกรรมการป... 9 คนโดยควรต้องมีส่วนของภาคประชาสังคมเข้าไปด้วย ไม่เช่นนั้นจะมีแต่ข้าราชการเก่าที่เกษียณอายุ  องค์กรอิสระกลายเป็นที่ทำงานของข้าราชการเก่าที่เกษียณอายุแล้วทั้งสิ้น เพราะว่าเกณฑ์กำหนดไปทางนั้นเสียด้วย คือคนจะสมัครได้ต้องมีระดับเป็นอธิบดีขึ้นไป ระดับ 10 ขึ้นไป เพราะฉะนั้น ในชีวิตจริงของประเทศไทย คนที่ขึ้นมาระดับนี้ได้ก็มักจะต้องเคยเห็นเคยสัมพันธ์คอรัปชั่นมาด้วยกันทั้งนั้น รู้จักคนคอรัปชั่น  มีคอนเน็คชั่น เคยร่วมเข้าหลักสูตรผู้บริหารกันมา  กลายเป็นว่าลูบหน้าปะจมูกกันไปหมด

หมอพลเดช อดีตประธานคณะทำงานเฉพาะประเด็นการปฏิรูปเพื่อแก้ปัญหาคอรัปชั่น   สรุปภาพคอรัปชั่นให้เห็นว่า การกำจัดคอรัปชั่นแรงต้านที่สำคัญคือราชการ กับนักการเมือง   3 ภาคที่ชั่วร้ายจากข้อสรุปงานวิจัยที่บอกไว้ตรงกัน คือนักการเมือง ข้าราชการและธุรกิจ  จากนี้เครื่องมือทางสังคมที่ต้องผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน คือมาตรการข้อแรก ภาคประชาชนอยากเห็นมากที่สุด คือ กองทุนสนับสนุนการป้องกันทุจริต  เพราะจะเป็นเครื่องมือกลไกอันสำคัญที่เสริมสร้างพลังทางสังคม สามารถทำได้ทันที และจะช่วยถอนพิษคอรัปชั่นออกจากสังคมไทยได้

 ล้อมกรอบ ร่วมติดตามความเคลื่อนไหวเสนอแนะความเห็นการพัฒนาประเทศไทยผ่านทาง facebook ชื่อ ภาคีพัฒนาประเทศไทย http://on.fb.me/1mxa3Jr

Be the first to comment on "รายงานพิเศษ"

Leave a comment

Your email address will not be published.