คุยกับเลขาธิการ (9) “นักกระบวนกร ผู้สานพลังสร้างนโยบาย”

สช.เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการพัฒนาและขับเคลื่อนกระบวนการนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม โดยให้มีมิติความห่วงใยต่อสุขภาพเป็นวัตถุประสงค์สำคัญ

เป้าหมายที่เราอยากเห็น คือ นโยบายสาธารณะทุกประเภทและทุกนโยบาย ในทุกกระทรวง ทบวง กรม และองค์กรรัฐต่างๆ ตลอดจนองค์กรปกครองท้องถิ่นทุกแห่ง ล้วนเป็นนโยบายที่ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมที่มีคุณภาพ และ มีความห่วงใยต่อสุขภาวะของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะคนเล็กคนน้อย

แม้จะมีหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบดำเนินการพัฒนาและแก้ปัญหาให้กับประชาชนโดยตรงอยู่แล้ว สช.ก็ยังคงมีบทบาทหนุนเสริมให้กับการทำงานของหน่วยงานเหล่านั้น ในด้านกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของ มีความพึงพอใจและช่วยกันดูแลรักษากันต่อไปอย่างยั่งยืน

เกือบหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา สช.ของเราได้ประดิษฐ์คิดค้นและสร้างเครื่องมือสำคัญสำหรับส่งเสริม-สนับสนุนกระบวนการมีส่วนร่วม  อย่างน้อย 3 ชิ้น ได้แก่

1.ธรรมนูญสุขภาพ(Health Charter)

2.สมัชชาสุขภาพ (Health Assembly)

3.การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ(Health Impact Assessment)

ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมและมีการนำไปประยุกต์ใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็วมาก

ด้านหนึ่งเป็นที่น่าดีใจอย่างยิ่ง เพราะอบต.นับพันแห่งกำลังนำรูปแบบและแนวคิดธรรมนูญสุขภาพไปสร้างเป็นธรรมนูญการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตน  ในขณะที่เครือข่ายประชาคมจังหวัดและภาคีการพัฒนาในพื้นที่ทั่วประเทศก็ได้นำเอารูปแบบสมัชชาสุขภาพจังหวัดไปใช้ในการขับเคลื่อนประเด็นสาธารณะที่เป็นจุดคานงัดของจังหวัดร่วมกัน  ส่วนชุมชนและประชาคมท้องถิ่นที่เกรงว่าโครงการขนาดใหญ่จะไปกระทบต่อสุขภาพของตน ต่างสนใจนำแนวคิดและเครื่องมือการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพไปใช้ปกป้องสิทธิของตนเช่นกัน

ส่วนอีกด้านหนึ่งก็มีเรื่องที่น่าห่วงกังวลอยู่ไม่น้อยเช่นกัน กล่าวคือผลลัพธ์และผลผลิตจากการนำเครื่องมือแต่ละชิ้นไปใช้กันอย่างอิสระเสรี ย่อมมีคุณภาพของผลงานที่แตกต่างหลากลายกันอยู่มาก เพราะมันขึ้นอยู่กับความเข้าใจและการยึดกุมปรัชญาแนวคิดหรือเจตนารมณ์ของแต่ละเครื่องมือ ของผู้ที่นำไปใช้งาน ที่อาจเบี่ยงเบนออกไปบ้างตามเป้าหมายแอบแฝงหรืออคติส่วนตัว จนอาจทำให้เกิดผลอันไม่พึงประสงค์ตามมา

เพื่อวิ่งไล่ทันกระแสความตื่นตัวของพี่น้องประชาชนและชุมชนท้องถิ่น และสามารถสร้างสมดุลระหว่างปริมาณและคุณภาพในเรื่องดังกล่าว  สช.ในฐานะสถาบันที่เป็นต้นกำเนิดและมีหน้าที่ส่งเสริมการใช้เครื่องมือ ได้เล็งเห็นบทบาทของวิทยากรชุมชนที่มีทักษะประสบการณ์ ระดับนักจัดกระบวนการที่สามารถ หรือที่เรียกกันว่า”นักกระบวนกร” ว่าจะเป็นผู้เชื่อมโยง สานพลังและช่วยปิดช่องว่างเหล่านี้ได้

ดังนั้น ตลอดระยะ 5 ปีของแผนงานหลักฉบับปัจจุบัน สช.จึงมีเป้าหมายที่จะพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนการทำงานของเครือข่ายนักกระบวนกรที่สามารถในการใช้เครื่องมือ4PWทั้งสามชนิด จำนวน 10,000 คน เพื่อไปหนุนเสริมชุมชนท้องถิ่นและพหุภาคีในพื้นที่

นักกระบวนกร4PWเหล่านี้ จะผ่านกระบวนการคัดสรรมาจากเครือข่ายวิทยากรชุมชนโดยใช้อำเภอเป็นฐานในการค้นหา พัฒนาและสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจ ทั้งนี้ก็เพื่อให้มีหลักประกันด้านการกระจายตัว ครอบคลุมพื้นที่  878 อำเภอและ  50 เขตของกทม.

คุณสมบัติสำคัญที่ต้องการสำหรับบุคลากรของเครือข่ายเหล่านี้ คือ เป็นผู้มีจิตอาสา พึ่งตนเองได้ มีภาวะผู้นำ เป็นนักเปลี่ยนแปลง และเชื่อในสันติวิธี ไม่สุดโต่ง

นอกจากจะมีหลักสูตรการฝึกอบรมทางด้านเทคนิควิชาการและการปลูกฝังค่านิยมอย่างเป็นระบบแล้ว สช.จะจัดให้มีคณะที่ปรึกษาอาวุโสของสช.และเครือข่ายนักสานพลังอีกเกือบ1,000 คน ที่กระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและโค้ชอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

ฝากท่านสมาชิก คอยติดตามผลงานและช่วยให้กำลังใจการทำงานของพวกเขากันนะครับ.

 

 

พลเดช  ปิ่นประทีป

12 กุมภาพันธ์ 2560