” ประสิทธิภาพ โปร่งใส ” คุยกับเลขาธิการ (7)

พลเดช ปิ่นประทีป 22 มกราคม 2560

ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารใหม่ การจัดขบวนการทำงานแบบใหม่ และต้องดูแลจัดงานประจำปีขนาดใหญ่หลายงานในเวลาที่ไร่เรี่ยกัน ผมได้เห็นการทำงานหนักของน้องๆสช. (สุชน คนใฝ่ดี) ทำให้เกิดความรู้สึกสองแบบขึ้นมาในพร้อมกัน

แบบหนึ่ง เป็นความชื่นชม ชื่นใจ และเชื่อมั่นศรัทธาในด้านจิตสำนึกการทำงานอย่างทุ่มเทของบุคลากร อันเป็นค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรที่ปลูกฝังและเสริมสร้างกันมาจากอดีต นับเป็นฐานทุนสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนภารกิจ

อีกแบบหนึ่ง เป็นความห่วงกังวลว่างานจะหนักเกินจนทำให้พนักงานเกิดความเครียด ความอ่อนล้า และหมดแรงลงเสียกลางครัน เป้าหมายที่อยากเห็น “งานได้ผล คนเป็นสุข”จะไม่เป็นจริง

แต่เท่าที่สังเกตุติดตามอย่างใกล้ชิดก็ยังไม่พบสัญญาณเช่นที่ว่า ตรงข้าม ทุกทีมงานกลับมีแต่ความคึกคักเบิกบาน กำลังสนุกสนานกับสถานการณ์และความท้าทายใหม่ๆ

ในแผนงานหลัก(ฉบับที่ 3)ของ สช. เราได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาไว้ประการหนึ่งว่า “จะเสริมสร้างองค์กรให้เป็นต้นแบบด้านธรรมาภิบาล” ซึ่งหลักธรรมาภิบาลหรือการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีนั้นประกอบด้วย หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักความมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า

ในการทำงานยุคประเทศไทย 4.0 ไม่ว่าสช.หรือองค์กรไหนๆก็ควรมีเป้าหมายในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของตนให้สูงยิ่งขึ้น ซึ่งหมายความว่าได้ผลงานมากขึ้น โดยออกแรงหรือใช้เงินลงทุนเท่าเดิมหรือน้อยลง คือได้ทั้งความคุ้มค่า และความโปร่งใสไปพร้อมกัน

สช.เป็นหน่วยงานระดับนโยบายขนาดเล็กที่มีบทบาทสำคัญในทางเชื่อมโยงและหนุนเสริม สช.ไม่ได้มีหน้าที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาของประชาชนโดยตรงหรือรณรงค์ทางสังคมด้วยตัวเอง เพราะสิ่งเหล่านั้นต่างมีกระทรวงและหน่วยงานรับผิดชอบเป็นหลักอยู่เรียบร้อยแล้ว

หน้าที่ของเราคือการไปส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกหน่วยงาน กลุ่ม องค์กรและภาคีเครือข่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับนโยบายสาธารณะ ได้มีความรู้ความเข้าใจ ตระหนักและสามารถใช้กระบวนการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเหล่านั้นโดยการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคีต่างๆที่เกี่ยวข้องอย่างครบวงจรและมีคุณภาพ เพื่อเพิ่มความเป็นเจ้าของร่วมกัน ลดความขัดแย้ง พัฒนาคุณภาพประชาชนพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย และเป็นการเสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน

ในเชิงกระบวนการ สช.มักให้บริการแก่หมู่คณะหรือองค์กรมากกว่าการให้บริการแก่ปัจเจกชน เว้นเสียแต่เป็นการให้บริการในด้านความรู้และข้อมูลข่าวสาร ซึ่งประชาชนทั่วไปย่อมสามารถเข้ามาขอรับบริการจากสช.ได้ตลอดเวลาเช่นกัน

แม้กระนั้นเรากลับพบว่า สิ่งที่ใช้เวลาและสมาธิของพนักงานมากที่สุดกลับเป็นงานจัดทำเอกสาร การจัดประชุมและการจัดการกับฐานข้อมูล ซึ่งเป็นงานที่ต้องทำซ้ำๆกันในกระบวนการต่างๆ โดยในปัจจุบันส่วนใหญ่ของสำนักงานยังคงเป็นระบบอนาล็อก (analog based) ทำให้พนักงานของสช.ต้องทำงานที่ซ้ำซ้อนกันอยู่มาก

ดังนั้นเพื่อลดภาระงานที่ไม่จำเป็น เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และสร้างสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงาน (life-work balance) ของพนักงานอย่างจริงจัง สช.จึงมีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนผ่านระบบสำนักงานและฐานข้อมูล จากอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอล (digital based) อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งตั้งใจให้แล้วเสร็จโดยพื้นฐานภายในปีนี้

นอกจากนั้น เพื่อให้เป็นไปตามหลักความรับผิดชอบและพร้อมรับการตรวจสอบจากภายนอกตลอดเวลา เรายังตั้งใจที่จะสร้างสรรค์สช.ให้เป็นองค์กรที่มีภาพลักษณ์ความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาลในทุกด้าน

ผมหวังว่าทั้งหมดนี้ จะเป็นสิ่งที่ภาคีเครือข่ายและสังคมทั่วไปจะสามารถสัมผัสได้ ภายในปี 2560 ด้วยเช่นกันนะครับ.
พลเดช ปิ่นประทีป
22 มกราคม 2560

คอลัมน์ คุยกับเลขาธิการ
วารสารสานพลัง
เดือนมกราคม2560